ภาพรวมตลาด
แม้ราคาหุ้น Tesla จะปรับตัวขึ้นอย่างโดดเด่นในช่วงเดือนพฤษภาคม จากกระแสคาดการณ์เชิงบวกเกี่ยวกับเทคโนโลยี Robotaxi และคำมั่นของ Elon Musk ที่ระบุว่าจะทุ่มเทเวลาให้กับบริษัทมากขึ้น แต่เมื่อพิจารณาปัจจัยพื้นฐานโดยเฉพาะด้านยอดขายกลับพบภาพที่ค่อนข้างสวนทาง โดยยอดขายในสามตลาดหลัก ได้แก่ สหรัฐฯ จีน และยุโรป ต่างปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในยุโรปที่ยอดขายหดตัวเกือบ 50% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ยอดขายในจีนก็ยังอยู่ในระดับที่อ่อนแอ การชะลอตัวของยอดขายรถยนต์รุ่นหลักต่อเนื่องตั้งแต่ไตรมาสแรกจนถึงต้นไตรมาสที่สอง สะท้อนถึงอุปสงค์ที่เริ่มแผ่วลง และอาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจอื่นที่ต้องพึ่งพาฐานลูกค้ารถยนต์โดยตรง เช่น ระบบขับขี่อัตโนมัติและบริการประกันภัยของบริษัท
ขณะเดียวกัน ยังมีประเด็นด้านมูลค่าหุ้นที่หลายฝ่ายมองว่าสูงเกินความเหมาะสม โดย Morningstar ยังคงประเมินราคายุติธรรมของหุ้น Tesla ไว้ที่ 250 ดอลลาร์ ซึ่งต่ำกว่าราคาตลาดปัจจุบันกว่า 40% พร้อมให้คะแนนเพียง 2 ดาว และระบุระดับความไม่แน่นอนไว้ในระดับ "สูงมาก" (Very High Uncertainty) แม้เทคโนโลยี Robotaxi จะเป็นโครงการที่น่าจับตาในระยะยาว แต่รายได้ในปัจจุบันของบริษัทยังเผชิญแรงกดดันจากการแข่งขันในอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าที่ทวีความรุนแรงขึ้น นอกจากนี้ แผนการเปิดให้บริการ Robotaxi อย่างเป็นทางการภายในปี 2026 ยังถูกนักวิเคราะห์บางรายตั้งข้อสังเกตว่ามีความเสี่ยงที่จะถูกเลื่อนออกไปอีกหลายปี โดยบางสำนักคาดว่าอาจต้องรอถึงปี 2028
นอกจากนี้ Gary Black นักลงทุนระดับสถาบันชื่อดัง ยังออกมาเตือนว่าอัตราส่วน P/E ล่วงหน้าของ Tesla ที่สูงถึง 180 เท่า ถือว่าสูงผิดปกติอย่างมาก โดยชี้ว่าบริษัทใดก็ตามที่มีมูลค่าตลาดเกิน 1 ล้านล้านดอลลาร์ ไม่เคยมีค่า P/E สูงในระดับนี้มาก่อน พร้อมตั้งคำถามว่าการประเมินมูลค่าดังกล่าวมีความสมเหตุสมผลเพียงใด เพราะหาก Tesla ต้องเติบโตในระดับที่สามารถสะท้อนมูลค่านี้ได้จริง บริษัทจะต้องมีมูลค่าตลาดสูงกว่า Apple และ Microsoft ซึ่งเขามองว่าเป็น "ความคาดหวังที่เกินจริงอย่างมาก" ปัจจัยเหล่านี้สะท้อนว่าราคาหุ้นในปัจจุบันได้สะท้อนความหวังในอนาคตล่วงหน้าไปมากพอสมควรแล้ว ท่ามกลางความไม่แน่นอนด้านเทคโนโลยีและสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่ยังไม่เอื้อต่อการเติบโตที่มั่นคง จึงทำให้หุ้น Tesla ยังคงเผชิญแรงเสี่ยงปรับฐานลงในระยะข้างหน้า
การวิเคราะห์ทางเทคนิค
TESLA
ราคาหุ้น Tesla (TSLA) ยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในจุดที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด เนื่องจากกำลังเผชิญกับแนวต้านสำคัญบริเวณด้านบนของกรอบสีแดง ซึ่งถือเป็นทั้งแนวต้านทางเทคนิคและระดับจิตวิทยาที่มีความหมายอย่างมาก โดยราคายังไม่สามารถฝ่าแนวต้านดังกล่าวขึ้นไปได้อย่างชัดเจน จึงยังมีความเสี่ยงที่จะเกิดแรงขายกลับลงมาในระยะสั้นเพิ่มเติม ด้านเครื่องมือทางเทคนิค RSI บนกรอบเวลา Daily ล่าสุดอยู่ที่ประมาณระดับ 61 แม้ยังอยู่ในโซนบวก แต่เริ่มมีสัญญาณชะลอตัว ขณะที่ MACD แม้ยังอยู่ในแดนบวกเช่นกัน แต่เส้น MACD เริ่มโค้งลงเล็กน้อย และ Histogram มีแนวโน้มลดลง ซึ่งเป็นสัญญาณสะท้อนว่าโมเมนตัมบวกอาจเริ่มอ่อนแรง หากราคายังไม่สามารถทะลุกรอบแนวต้านสีแดงขึ้นไปได้อย่างเด็ดขาด ก็มีโอกาสที่ราคาจะถูกกดดันให้ย่อตัวลงมาทดสอบแนวรับบริเวณ 311.81 ดอลลาร์อีกครั้ง อย่างไรก็ตาม หากสามารถเบรกกรอบต้านขึ้นไปได้อย่างมั่นคง ก็จะเป็นสัญญาณเชิงบวกที่อาจเปิดทางให้แนวโน้มขาขึ้นกลับมาแข็งแกร่งอีกครั้งในระยะถัดไป
TESLA (DAILY)
