FBS ก้าวเข้าสู่ปีที่ 16
16 มิ.ย. 2025
กลยุทธ์
การเทรดดัชนีอาจเป็นโอกาสอันดีที่จะได้เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับตลาดหุ้นและดูอิทธิพลของหุ้นต่าง ๆ ที่มีต่อดัชนี บทความนี้เกี่ยวกับตัวบ่งชี้ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อการซื้อขายดัชนีโดยเฉพาะ Advance/Decline Line
Advance/Decline Line เป็นตัวบ่งชี้ทางเทคนิคที่ได้รับความนิยมน้อยกว่า RSI, Stochastics และ MACD ตัวบ่งชี้อื่น ๆ เหล่านั้นเป็นตัวบ่งชี้ที่อิงตามโมเมนตัม ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อวัดความแข็งแกร่งหรือความอ่อนแอของหุ้น แต่เส้น A/D จะแสดงจำนวนของผู้ซื้อและผู้ขายที่มีส่วนร่วมในภาวะตลาดหุ้นที่กำลังปรับตัวขึ้นหรือลง ซึ่งสิ่งนี้เรียกว่า ความกว้างของตลาด (market width)
แม้บทความนี้จะเน้นการใช้งานของตัวบ่งชี้ A/D กับตลาดหุ้น แต่คุณสามารถเพิ่มตัวบ่งชี้นี้ลงในแอป FBS หรือ MetaTrader ของคุณ และนำไปใช้กับสินทรัพย์ทุกประเภทได้
Advance/Decline Line (ADL) เป็นตัวบ่งชี้ทางเทคนิคที่แสดงผลต่างระหว่างจำนวนหุ้นที่ปรับตัวขึ้นและลงในแต่ละวัน ตัวบ่งชี้นี้มักถูกใช้สำหรับการซื้อขายหุ้นและดัชนีต่าง ๆ โดยจะแสดงให้เห็นว่าหุ้นหนึ่ง ๆ มีบทบาทอย่างไรในการที่ตลาดปรับตัวขึ้นหรือลง
ดัชนีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดมักจะเป็นดัชนีแบบถ่วงน้ำหนักตามมูลค่าตลาด (market value-weighted) น้ำหนักของหุ้นตัวใดตัวหนึ่งจะถูกกำหนดโดยมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดทั้งหมด ในดัชนีดังกล่าว หุ้นที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดสูงกว่าจะมีน้ำหนักมากกว่า และการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ของราคาหุ้นจะส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของดัชนีมากกว่า ตัวอย่างเช่น ในดัชนี S&P 500 หุ้นของ Apple จะมีน้ำหนักมากที่สุด
เนื่องจากมีดัชนีหุ้นที่ถ่วงน้ำหนักด้วยมูลค่าตลาดอยู่หลายตัวมาก เช่น S&P 500, DJIA และ NASDAQ Composite ดังนั้นหุ้นที่มีมูลค่าตลาดสูงกว่าก็จะมีอิทธิพลอย่างไม่สมส่วนต่อผลประกอบการของดัชนี ดังนั้น ADL จึงช่วยแสดงให้เห็นว่าสัดส่วนของหุ้นในดัชนีนั้น มีจำนวนเท่าใดที่มีส่วนร่วมในการเคลื่อนไหวของตลาดโดยรวม
ตัวอย่างเช่น หากดัชนีหุ้นที่ถ่วงน้ำหนักด้วยมูลค่าตลาดเพิ่มขึ้น 3% เทรดเดอร์จะต้องรู้เรื่องสำคัญสองประการด้วยกัน
ประการแรก พวกเขาจำเป็นต้องเข้าใจว่าการปรับตัวขึ้นของดัชนีนั้นเกิดจากการที่หุ้นส่วนใหญ่พุ่งขึ้นหรือไม่
ประการที่สอง พวกเขาต้องวิเคราะห์ว่าการเพิ่มขึ้นของดัชนีเกิดจากผลประกอบการที่โดดเด่นของบริษัทใดบริษัทหนึ่งที่มีน้ำหนักมากในดัชนีหรือไม่ ซึ่ง A/D Line สามารถให้ข้อมูลที่กล่าวมาข้างต้นได้
A/D Line นั้นคำนวณและทำความเข้าใจได้ไม่ยาก ประกอบด้วยสามองค์ประกอบ:
หุ้นที่พุ่งขึ้น (Advancing stocks) – คือจำนวนหุ้นทั้งหมดในดัชนีตลาดที่ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นในวันก่อนหน้า
หุ้นที่ร่วงลง (Declining stocks) – คือจำนวนหุ้นทั้งหมดในดัชนีตลาดที่ราคาปรับตัวลดลงในวันก่อนหน้า
ยอดสุทธิของหุ้นที่เปลี่ยนแปลงก่อนหน้า (Previous net advances) – คือผลรวมสุทธิของจำนวนหุ้นที่ปรับตัวขึ้นและลงจากวันก่อนหน้า
นี่คือวิธีใช้ตัวบ่งชี้ในแอป FBS:
เปิดแอป FBS และเลือกตราสารการซื้อขาย เริ่มต้นด้วยการเลือกสินทรัพย์ที่คุณต้องการวิเคราะห์ (เช่น ทองคำ EURUSD หรือ Bitcoin)
ไปที่ มุมมองกราฟ แตะที่สินทรัพย์เพื่อเปิดกราฟโดยละเอียด
แตะที่ ตัวบ่งชี้ คุณจะพบตัวเลือกนี้อยู่ใต้กราฟทางด้านซ้าย
ค้นหาตัวบ่งชี้ Advance/Decline พิมพ์หรือเลื่อนเพื่อค้นหาตัวบ่งชี้ AD ในรายการ
แตะ นำไปใช้ เมื่อเลือกแล้ว AD Line จะปรากฏบนกราฟของคุณทันที พร้อมที่จะช่วยให้คุณระบุแนวโน้มที่อิงจากปริมาณ
ยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? นี่คือคําแนะนําง่าย ๆ ในการเปิดบัญชีของคุณกับ FBS: วิธีเริ่มเทรดออนไลน์ด้วยแอป FBS
ตัวบ่งชี้ A/D Line ไม่ได้รวมอยู่ในรายการตัวบ่งชี้มาตรฐาน คุณจำเป็นต้องติดตั้งด้วยตัวเอง โดยทำตามขั้นตอนดังนี้:
ดาวน์โหลด Advance Decline Line สำหรับ MT5 ในรูปแบบ .mq5 แต่สำหรับ MT4 คุณต้องใช้ .mq4
เปิดโปรแกรม MT4 หรือ MT5 แล้วไปที่เมนู File > Open Data Folder จากนั้นเลือกโฟลเดอร์ MQL4/5 > แล้วเข้าไปที่โฟลเดอร์ Experts หรือ Indicators จากนั้นคัดลอกไฟล์ตัวบ่งชี้ในฟอร์แมต MQL4/EX4 หรือ MQL5/EX5 ไปวางไว้ในโฟลเดอร์นี้
เริ่มต้นหรือรีสตาร์ต MetaTrader 4/5 ของคุณ
เลือกกราฟและกรอบเวลาที่คุณต้องการทดสอบตัวบ่งชี้ MT5 ของคุณ
คลิกเมนู Insert > Indicators > แล้วคุณจะเห็น Advance/Decline Line จากหมวด Custom Indicators
คลิก OK และ Advance/Decline Line จะพร้อมใช้งานบนกราฟของคุณ
A/D Line จะให้สองสัญญาณหลัก ๆ เดี๋ยวเราไปดูกันดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง
เทรดเดอร์สามารถนำมาใช้เพื่อยืนยันความแข็งแกร่งของแนวโน้มได้ เราได้กล่าวถึงเรื่องนี้มาก่อนแล้ว แต่สมควรจะย้ำอีกครั้ง:
เมื่อ A/D Line เคลื่อนตัวขึ้นพร้อมกับราคาที่ปรับขึ้น แสดงว่าแนวโน้มขาขึ้นมีความแข็งแกร่ง หุ้นจำนวนมากมีส่วนร่วมในการปรับตัวขึ้นของตลาด และมีแนวโน้มว่าราคาจะยังคงปรับตัวขึ้นต่อไป ในทางกลับกัน เมื่อ A/D Line เคลื่อนตัวลงพร้อมกับราคาที่ปรับลง แสดงว่าแนวโน้มขาลงมีความแข็งแกร่ง ราคามีแนวโน้มจะยังคงปรับตัวลงต่อไป
ด้านล่างนี้ เราจะเห็นตัวอย่างกราฟราคาของ S&P 500 ที่ใช้ A/D Line ในการยืนยันความแข็งแกร่งของแนวโน้มของราคา ณ ปัจจุบัน
ราคาของ S&P 500 และเส้น Advance/Decline Line ต่างเคลื่อนตัวไปในทิศทางของแนวโน้มขาขึ้นเหมือนกัน A/D Line จะยืนยันการเคลื่อนไหวของราคาด้วยการพุ่งขึ้น สิ่งนี้จะบ่งชี้ถึงการมีส่วนร่วมในวงกว้างของหุ้นในแนวโน้มขาขึ้นนี้ และให้การยืนยันแนวโน้มราคาได้
A/D Line ยังสามารถใช้เพื่อค้นหาจุดกลับตัวที่อาจเกิดขึ้นของแนวโน้มได้อีกด้วย: ในช่วงเวลาที่แนวโน้มขาขึ้นอาจกำลังเข้าสู่จุดกลับตัว คาดว่าราคาจะ ทำจุดสูงสุดใหม่ที่สูงขึ้น (Higher Highs) แต่ A/D Line กลับทำจุดสูงสุดที่ต่ำลง (Lower Highs) สิ่งที่เกิดขึ้นนี้จะถูกเรียกว่า Bearish Divergence ระหว่างราคาและ A/D Line
ในทางกลับกัน หากต้องการระบุจุดกลับตัวที่อาจเกิดขึ้นในแนวโน้มขาลง ให้ดูจากกราฟราคาที่มีจุดต่ำสุด (Swing Lows) ต่ำลงเรื่อย ๆ แต่ A/D Line กลับทำจุดต่ำสุดที่สูงขึ้น (Higher Lows) สิ่งที่เกิดขึ้นนี้จะถูกเรียกว่า Bullish Divergence ระหว่างราคาและ A/D Line
ด้านล่างนี้คือตัวอย่างกราฟราคาของ NASDAQ ที่ใช้ A/D Line ในการระบุการเกิด Divergence ระหว่างราคาและ A/D Line
การเคลื่อนไหวของราคา NASDAQ ได้สร้างจุดต่ำสุดที่สำคัญสองจุด โดยจุดต่ำสุดที่สองจะต่ำกว่าจุดต่ำสุดจุดแรก ในขณะเดียวกัน เส้น A/D Line ได้สร้างรูปแบบที่จุดต่ำสุดที่สองสูงกว่าจุดต่ำสุดจุดแรก สิ่งที่เกิดขึ้นได้สร้าง Bullish Divergence ระหว่างราคาและ A/D Line
กราฟด้านล่างนี้จะแสดง A/D Line ของดัชนี S&P 500 กราฟนี้แสดงให้เห็นว่าอัตราลดลงอย่างรวดเร็วเมื่อมีการประกาศการระบาดใหญ่ของโควิดในปี 2020 เนื่องจากจำนวนหุ้นที่ลดลงและปริมาณการซื้อขายของหุ้นที่ลดลงในดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้นอย่างมาก
ไม่นานหลังจากนั้น ตัวบ่งชี้ก็ปรับตัวขึ้น เนื่องจากจำนวนหุ้นที่ปรับตัวขึ้นและปริมาณการซื้อขายของหุ้นเหล่านั้นเพิ่มขึ้น
เส้น A/D ไม่ได้ให้ข้อมูลที่แม่นยำเสมอไปสำหรับหุ้นใน Nasdaq เนื่องจาก Nasdaq มักจะมีบริษัทขนาดเล็กและมีลักษณะเก็งกำไรสูงจำนวนมาก ซึ่งหลายบริษัทอาจล้มเหลวหรือถูกถอดถอนออกจากตลาด (delisting) เมื่อหุ้นถูกถอดถอนออกจากตลาด หุ้นเหล่านั้นยังคงถูกนับรวมอยู่ในค่าที่คำนวณไว้ก่อนหน้านี้ของ A/D Line ซึ่งจะส่งผลต่อการคำนวณในอนาคตที่ถูกบวกเข้าไปในค่ารวมสะสมเดิม ด้วยเหตุนี้ บางครั้ง A/D Line จะดิ่งลงเป็นระยะเวลานาน แม้ว่าราคาดัชนี NASDAQ จะกำลังปรับตัวสูงขึ้นก็ตาม
สิ่งที่ควรระวังอีกอย่างคือดัชนีบางตัวจะถูกถ่วงน้ำหนักด้วยมูลค่าตลาด ยิ่งบริษัทมีขนาดใหญ่เท่าไร มันก็ยิ่งมีอิทธิพลต่อการเคลื่อนไหวของดัชนีมากขึ้นเท่านั้น ในขณะที่ A/D Line จะให้น้ำหนักเท่าเทียมกันกับหุ้นทุกตัว ซึ่งทำให้ A/D Line เป็นตัวบ่งชี้ที่เหมาะสมกว่าในการวิเคราะห์หุ้นขนาดกลาง ขนาดเล็ก หรือขนาดกลางค่อนข้างมาก มากกว่าหุ้นขนาดใหญ่หรือหุ้นขนาดใหญ่มาก (Mega-cap)
เส้น Advance/Decline Line (A/D Line) เป็นตัวบ่งชี้ที่ยอดเยี่ยม ซึ่งสามารถให้ข้อมูลเชิงลึกที่มีคุณค่าเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของราคาในดัชนีตลาดหลัก ๆ ได้ สัญญาณการซื้อขายที่น่าเชื่อถือที่สุดที่ได้จาก A/D Line คือสัญญาณการเกิด Divergence เทรดเดอร์ควรให้ความสนใจกับสัญญาณ Bullish หรือ Bearish Divergence ระหว่างการเคลื่อนไหวของราคาและ A/D Line เหตุการณ์เหล่านี้มักจะนำไปสู่การกลับตัวของตลาด ซึ่งสามารถทำกำไรได้มากพอสมควร
โดยการลงทะเบียน คุณได้ยอมรับเงื่อนไขของ ข้อตกลงลูกค้า FBS และ นโยบายความเป็นส่วนตัว FBS และยอมรับความเสี่ยงทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการซื้อขายในตลาดการเงินระดับโลก